ไม้ไผ่กับวัฒนธรรม
คุณลักษณะพิเศษของ "ไผ่"
๑.ไผ่โตเร็วสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ภายในเวลา ๑ - ๔ ปี และใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน ตั้งแต่รากไผ่เป็นสมุนไพรอย่างหนึ่งที่ใช้เป็นยารักษาโรคได้ หนิอไผ่หรือหน่อไม้ใช้ทำอาหาร กาบหรือใบไผ่ใช้ห่ออาหารหรือหมักปุ๋ย กิ่งและแขนงใช้ทำรั้ว ลำต้นใช้ประโยชน์ได้สารพัดอย่าง ตั้งแต่นำมาใช้ปลูกสร้างที่พักอาศัยและแปรรูปเป็นเครื่องจักสานและเครื่องมือเครื่องใช้นานาชนิดจนถึงนำมาใช้เกี่ยวกับความเชื่อและพิธีกรรมต่างๆ ตั้งแต่เกิดจนตาย คังนั้นชาวนาจึงมักปลูกไผ่ตามหัวไร่ปลายนา และปลูกไว้รอบๆบ้าน เพื่อใช้เป็นรั้วบ้านและป้องกันพายุ เพราะไม้ไผ่จะลู่ตามลมไม่หักโค่นเหมือนไม้อื่น หากปลูกไผ่ไว้ตามริมแม่น้ำลำคลอง จะช่วยชะลอความเร็วของกระแสน้ำไม่ให้ดินพัวทะลายง่าย นอกจากนี้ไผ่ยังใช้เป็นอาหารในครัวเรือนได้ด้วย
๒. ไผ่มีลำต้นตรงและกลวงคล้ายหลอดและมีปล้องข้อคั่นเป็นปล้องๆ จึงใช้เป็นภาชนะประเภทกระบอก ถ้วย สำหรับใส่ของเหลว เช่นใช้เป็นกระบอกน้ำ กระบอกน้ำตาล ซึ่งใช้กันทั่วไปในหลายประเทศ ลักษณะพิเศษของไม้ไผ่นี้สามารถนำมาใช้สร้างอาคารที่พักอาศัยได้ โดยนำมาทำเป็นโครงสร้างของบ้านเรือน ใช้เป็นพื้นเรือน ฝาเรือน ใช้ทำรางน้ำ ท่อน้ำ และทำเครื่องดนตรีประเภทขลุ่ยได้ดีอีกด้วย
๓. เนื้อไผ่เป็นเส้นตรงมีความยืดหยุ่นในตัวเองและสามารถคินตัวสู่สภาพเดิมได้ เมื่อนำไม้ไผ่มาแปรรูปก็จะสามารถใช้ประโยชน์ได้ดี เพราะเนื้อไม้ไผ่เป็นเส้นตรง นำมาจักเป็นปื้นบางๆ หรือเหลาเป็นเส้นได้ดี จึงใช้ทำเครื่องจักสานนานาชนิดได้ ทั้งเครื่องจักสานที่มีขนาดใหญ่ แข็งแรงมั่นคง สำหรับใช้งานหนักจนถึงเครื่องจักสานขนาดเล็กที่มีความปราณีตบอบบาง และเพราะคุณสมบัติในที่มีความยืดหยุ่น จึงเหมาะที่จะใช้เป็นเครื่องหาบหรือหาม เช่น คาน คันกระสุน คันธนูและเมื่อแปรรูปเป็นตอกก็ยังมีความยืดหยุ่นคืนรูปทรงเดิมได้ง่ายจึงทำให้ภาชนะจักสานที่ทำจากไผ่มีคุณลักษณะพิเศษต่างไปจากภาชนะที่ทำจากวัตถุดิบชนิดอื่น
ต้นไผ่ ไผ่สีสุก ไผ่ซาง ไผ่บง ไผ่รวก
การขยายพันธุ์ต้นไผ่นิยมนำกิ่งนำกิ่งมาชำ ปลูกง่ายมากๆ
การดูแลรักษา
ดูแลเฉพาะช่วงแรกที่ หากลำต้นโตก็ไม่ต้องดุแลก็ได้ เก็บใช้ประโยชน์อย่างเดียว
ประโยชน์ของไผ่
คนไทยเราผูกพันกับไผ่มายาวนาน ไผ่ถูกใช้ตั้งแต่เกิดจนตาย สำหรับไผ่แล้วเป็นทั้งไม่ที่มีประโยชน์และไม่ที่เป็นมงคล เวลาจะสร้างสิ่งต่างๆ เราจะใช้ไผ่เป็นโครง และงานเครื่องใช้ในครัวของตนในยุคก่อนก็มีไผ่อยู่เกือบทุกอย่าง อย่างเช่นตระกล้า กระบุ้ง พัด ชั้นวางของ บ้าน เป็นต้น
สาระน่ารู้
ไผ่มีหลายชนิด การเลือกใช้ของคนในยุคก่อนก็ตามแต่จะใช้ เช่น ไผ่รวกมีความคม การทำคลอดของคนในยุคก่อนใช้ไผ่ตัดสายสะดือ ไผ่รวกใช้ในงานจักสาน ไผ่สีสุก นำมาประกอบในพิธีมงคลต่างๆ จะต้องมีไผ่สีสุกประกอบ นำมาจักสาน ไผ่บง ไผ่ซาง นำมาจักสาน และนำมาค้ำต้นไม้ และประโยชน์อีกมากมาย เพราะไผ่เป็นต้นไม้สาระพัดประโยชน์จริงๆ สำหรับเรื่องไผ่เดี๋ยวครั้งหน้าผมจะเพิ่มเติมให้แล้วกันนะครับ
สรรพคุณทางยา และวิธีใช้ | ใบ นำมาปรุงเป็นยาขับระดู ยอดไผ่ ทำเป็นยาขับปัสสาวะ ราก แก้ไตพิการ ขับปัสสาวะ แก้โรคหนองใน แกงหน่อไม้ใส่ใบย่านาง |
เครื่องปรุง
- หน่อไม้รวกเผา5 หน่อ (300 กรัม)
- ใบย่านาง20 ใบ (115 กรัม)
- เห็ดฟางฝ่าครึ่ง? ถ้วย (100 กรัม)
- ชะอมเด็ดสั้น? ถ้วย (50 กรัม)
- ฟักทองหั่นชิ้นพอคำ? ถ้วย (50 กรัม)
- ข้าวโพดข้าวเหนียวฝานเอาแต่เมล็ด? ถ้วย (50 กรัม)
- แมงลักเด็ดเป็นใบ? ถ้วย (50 กรัม)
- ตะไคร้ทุบหั่นท่อน? 2 ต้น (60 กรัม)
- น้ำปลาร้า3 ช้อนโต๊ะ (48 กรัม)
- น้ำ3?4 ถ้วย (300?400 กรัม)
- กระชายทุบ? ถ้วย (10 กรัม)
- พริกขี้หนู10 เม็ด (10 กรัม)
- ข้าวเบือ1 ช้อนโต๊ะ (15 กรัม)
- น้ำปลา? 2 ช้อนโต๊ะ (30 กรัม)
วิธีทำ
- โขลกข้าวเบือให้ละเอียด
- ปอกเปลือกหน่อไม้ ตัดส่วนแก่ทิ้ง ตัดเป็นท่อนยาว 2 นิ้ว ต้มน้ำทิ้ง 2-3 ครั้ง ให้หายขื่น
- โขลกใบย่านาง แล้วนำไปคั้นกับน้ำ ให้น้ำใบย่านางออก กรองใส่หม้อ
- นำหม้อที่ใส่น้ำใบย่านางยกขึ้นตั้งไฟ ใส่หน่อไม้พอเดือดใส่กระชาย พริกขี้หนู ตะไคร้ ข้าวเบือ น้ำปลาร้า น้ำปลา ต้มสักครู่ ใส่ฟักทอง เห็ดฟาง ข้าวโพด เมื่อทุกอย่างสุกทั่วกันดี ใส่ชะอม ใบแมงลัก ยกหม้อลง
สรรพคุณทางยา
1. หน่อไม้ มีรสขมหวานร้อน
- ราก รสอร่อยเอียนเล็กน้อย ใช้ขับปัสสาวะ แก้ไตพิการ
- ใบไผ่ เป็นยาขับฟอกล้างโลหิตระดูที่เสีย
- ใบ ใช้เป็นยาถอนพิษ ปรุงรวมกับยาอื่นแก้ไข้
- ราก แก้เบื่อเมา กระทุ้งพิษไข้ เป็นเมาสุรา ถอนพิษผิดสำแดง
4. ชะอม รากชะอมมีสรรพคุณแก้ท้องเฟ้อ ขับลมในลำไส้แก้อาการปวดเสียวในท้องได้ดี ยอดชะอมใบอ่อน มีรสจืด กลิ่นฉุน (กลิ่นหอมสุขุม) ช่วยลดความร้อนของร่างกาย
5. ฟักทอง มีคุณค่าทางอาหารสูง บำรุงสายตา บำรุงร่างกาย
??? 6. ข้าวโพด รสหวานมัน เมล็ด เป็นยาบำรุงกระเพาะอาหาร ฝาดสมาน บำรุงหัวใจ ปอด เจริญอาหาร ขับปัสสาวะ
- ?ราก ต้มกินรักษานิ่ว และอาเจียน
8. ตะไคร้ แก้ปวดท้อง ขับปัสสาวะ บำรุงธาตุ ช่วยเจริญอาหาร และขับเหงื่อ
9. กระชาย รสร้อน แก้ท้องอืดเฟ้อ ขับลม แก้บิดมีตัว ขับพยาธิตัวกลม และพยาธิเส้นด้ายในเด็ก ใช้แต่งกลิ่น สี รสอาหารที่มีคุณค่าทางอาหารสูง ไม่มีพิษ
10. พริกขี้หนู รสเผ็ดร้อน ช่วยย่อย
คุณค่าทางโภชนาการแกงหน่อไม้ใส่ใบย่านาง รสชาติโดยรวมจะออกไปทางขมร้อน จากการใส่ผักหลายชนิดซึ่งมีทั้งรสร้อน รสขม จืดมัน จึงช่วยในการบำรุงธาตุ ขับปัสสาวะ แก้ไข้ ขับลม และช่วยเจริญอาหาร
หน่อไม้ฝรั่งปรุงรส
การเก็บ "หน่อไม้ฝรั่ง" ส่งขายทั้งตลาดภายในประเทศและส่งออกไปยังเพื่อนบ้าน
เกษตรกรชาวไร่ต้องตกแต่งตัดโคนที่แข็งแก่ออกทิ้ง เพื่อให้สวยงาม ดูแล้วน่ากิน
ซึ่งหลังรวบรวมผลิตผลเสร็จ จะเหลือ "โคนแข็ง" อยู่ เหลือทิ้งกลายเป็นขยะมากมาย
เพื่อลดปริมาณขยะ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่เป็นสาเหตุทำให้โลกร้อน น.ส.จันทร์จีรา ทองร้อยยศ นักศึกษาชั้นปีที่ 4
ภาควิชาอาหารและโภชนาการ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี
จึงนำมาแปรรูปเป็น "หน่อไม้ฝรั่งแผ่นปรุงรส"
จันทร์จีรา บอกกับ "ทำได้ ไม่จน" ว่า ในหน่อไม้ฝรั่ง มีคุณสมบัติช่วยขับปัสสาวะ
มีวิตามิน B 3 บำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดชื่น และจากการที่พบเห็นว่าโคนหน่อไม้ฝรั่งในชุมชน
หลังตกแต่งเสร็จแล้วจะมีเหลือทิ้งจำนวนมาก รู้สึกเสียดาย อีกทั้งราคาซื้อขายค่อนข้างแพง
จึงคิดว่าน่าจะนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ในรูปแผ่นปรุงรส
เพื่อให้เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ของกลุ่มคนที่ชอบทานของขบเคี้ยวเล่นในยามว่าง
ขั้นตอนกรรมวิธีการทำนั้นไม่ยุ่งยาก เริ่มจากนำโคนหน่อไม้ส่วนที่ตัดทิ้ง 500 กรัม มาล้างน้ำให้สะอาด
เลือกเอาเฉพาะที่ยังมีสีเขียวมาปอกเปลือกเอาส่วนที่แข็งออก จากนั้นนำไปลวกในน้ำร้อนจัดนาน 1-2 นาที
เสร็จแล้วแช่ในน้ำเย็นจัดปล่อยทิ้งไว้
...จากนั้นผัดเครื่องปรุงประกอบด้วย พริกไทยป่น 2.5 กรัม น้ำมันพืช 10 กรัม กระเทียม 15 กรัม
กระทั่งมีกลิ่นหอม จึงใส่เกลือ 5 กรัม น้ำตาล 7.5 กรัม ตักใส่รวมกับหน่อไม้ นำไปปั่นให้เข้ากัน
เสร็จแล้วนำถุงพลาสติกขนาด 12 x 18 นิ้ว ซึ่งทาด้วยน้ำมันพืช นำไปรีดเป็นแผ่นบางๆ ให้สม่ำเสมอกัน
แล้วแกะออกเป็นแผ่น นำไปอบลมร้อนในอุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส ใช้เวลา 5 ชั่วโมง
นำมาตัดเป็นแผ่นขนาด 1.5-1 นิ้ว
เพียงเท่านี้ก็จะได้ หน่อไม้ฝรั่งแผ่นปรุงรส ซึ่งมีลักษณะเหมือนสาหร่ายแผ่น ที่ขายตามท้องตลาด
...แล้วยังอุดมด้วยคุณประโยชน์ด้านโภชนาการ ป้องกันโรคหลอดเลือดอุดตัน ลดปริมาณคอเลสเทอรอลในเส้นเลือด
เพราะมีการปรุงแต่งกลิ่นรสชาติจากสมุนไพร ทั้งกระเทียมและพริกไทย
ซึ่งไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย หากรับประทานในปริมาณมาก
นำเสนอน่าสนใจดีคร๊.......
ตอบลบน่าสนใจ มาก นะ
ตอบลบดี.........
ตอบลบน่าสนใจมากเลย..........
ตอบลบสวยงามดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ.....
ตอบลบน่าสนใจมากเลยค่ะ..............
ตอบลบดีมากเลยค่ะ........
ตอบลบน่าสนใจมากๆจร๊....
ตอบลบ