วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2555


ข้าวมันไก่ที่อร่อยนั้น ตัวข้าวมันต้องนุ่มนวล ข้าวเป็นเมล็ดไม่บานเหมือนข้าวสวยปกติ แต่ไม่แข็งกระด้าง ความมันของข้าวพอดี ไม่ถึงขนาดเลี่ยน ที่สำคัญต้องมีกลิ่นหอมของ มันไก่ กระเทียม ขิง ผสมกัน ไก่ต้องต้มในเวลาที่พอเหมาะ หนังไก่ตึง เนื้อไก่มีสีขาวและไม่ยุ่ย ที่สำคัญที่สุดก็คือน้ำจิ้ม รสต้องเด็ดขาด เค็ม เปรี้ยว หวาน พอเหมาะ ขิงต้องใช้ขิงแก่จึงจะหอมและเผ็ด สรุปได้ว่าต้องอร่อยสัมพันธ์กันทั้ง ข้าวมัน เนื้อไก่ น้ำจิ้ม แต่ถ้าหาซื้อขิงแก่ไม่ได้ ก็ใช้ขิงอ่อนแทนได้ค่ะ

เครื่องปรุง (สำหรับ 5-6 คน)

ไก่สด 1 ตัว (( ถ้าได้ไก่ตอนยิ่งอร่อย ))
ตับไก่ 2-3 พวง
เลือดไก่ 1 ก้อน
ข้าวหอมมะลิเก่า 3 ½ ถ้วย
น้ำมันไก่ หรือ น้ำมันพืช ½ ถ้วย
แตงกวา 1-2 ลูก
ผักชี นิดหน่อย

วิธีทำ

1). ล้างไก่ทั้งข้างนอกและข้างในตัวไก่ ให้สะอาด นำตัวไก่มาวางในกะละมัง โดยให้ส่วนหัวของไก่ตั้งขึ้น น้ำในช่องท้องจะได้ไหลออกมา ทิ้งไว้สักพัก พอน้ำที่หนังไก่เริ่มแห้ง หรือจะใช้ผ้าช่วยซับให้แห้งก็ได้ ใช้เกลือป่นทาบาง ๆ ให้ทั่วตัวไก่ ล้วงเข้าไปในตัวไก่เอาเกลือทาด้วย ส่วนตับไก่ ล้างสะอาด แล้วเคล้าเกลือพักไว้

2). ตั้งน้ำ (กะปริมาณของน้ำที่คาดว่าจะท่วมตัวไก่) ในหม้อขนาดที่ใส่ตัวไก่ลงได้ทั้งตัว พอน้ำเดือด ก็ใส่ตัวไก่ลงไป พอน้ำเริ่มเดือดปุด ๆ ใหม่อีกครั้ง ให้ใส่น้ำแข็งก้อนลงไปในหม้อต้มไก่ 4-5 ก้อน ((ให้ใส่ทุกครั้งที่น้ำเริ่มเดือด จนกว่าไก่จะสุกได้ที่ )) ใช้ไฟกลาง และต้มประมาณ 45 นาที คอยช้อนฟองทิ้งด้วย เพื่อให้น้ำซุปใส พอไก่สุกก็กลับอีกด้านหนึ่งลงไปต้มด้วย ถ้าชอบตับไก่ ก็ใส่ลงไปต้มพร้อมกับไก่ได้เลย ส่วนเลือดไก่ที่ทำเป็นก้อนและสุกมาแล้วนั้น ใส่ตอนหลังสุด

3). พอไก่สุก ตักออกมาจากหม้อใส่ภาชนะ ทาหนังไก่ด้วยน้ำมันไก่ หรือน้ำมันพืช เพื่อไม่ให้หนังไก่แห้งไว้

4). น้ำซุปในหม้อแบ่งออกมาพอหุงข้าว ตามส่วนของข้าว + เพิ่มน้ำซุปอีก ¼ ถ้วย ( เช่น ข้าว 1 ถ้วย ก็ใส่น้ำซุป 1 ¼ ถ้วย ) แล้วตั้งทิ้งไว้ให้เย็น ซาวข้าวหอมมะลิเก่า 2-3 ครั้ง เทใส่กระชอนทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำ (จะช่วยเขย่ากระชอนให้น้ำสะเด็ดเร็ว ๆ ด้วยก็ได้) ตั้งกะทะใส่มันไก่ ลงไปเจียวจนน้ำมันออกมา หรือจะใช้น้ำมันพืชก็ได้ พอน้ำมันเริ่มร้อน ใส่กระเทียมที่ทุบพอแตกลงไปผัดพอหอม แต่ไม่ต้องให้เหลือง เทข้าวสารที่สะเด็ดน้ำแล้วลงไปผัดกับน้ำมันและกระเทียม ใส่รากผักชี โรยพริกไทยนิดหน่อย ผัดเคล้าให้ข้าวสารเข้ากันจนทั่วสักพัก เทข้าวสารที่ผัดเสร็จแล้วลงในหม้อหุงข้าวไฟฟ้า ใส่น้ำซุปที่แบ่งไว้และเย็นแล้วลงไป คนแล้วชิมรส ให้ออกเค็มนิดหน่อย (ถ้าไม่เค็มเติมเกลือลงไปนิดหน่อยได้) ปอกขิงแก่ 1 แว่น ล้างสะอาด ทุบให้แตกหย่อนลงไปในหม้อหุงข้าวด้วย เปิดสวิทช์หุงข้าวตามปกติ

5). พอข้าวสุก ให้ใช้ทัพพีคุ้ยข้าวให้ร่วนซุย กลับข้าวจากด้านล่างขึ้นด้านบน แล้วปล่อยอุ่นทิ้งไว้ในหม้อ เวลาเสริฟ์ จะเสริฟ์แบบร้านขายข้าวมันไก่ ก็ตักข้าวใส่จานให้พูน หรือจะตักใส่ถ้วยขนาดพอเหมาะ กดพอแน่น คว่ำถ้วยลงบนจาน เคาะก้นถ้วยให้ข้าวหลุดออกมา เลาะเนื้อไก่วางบนเขียง แล้วใช้มีดตบให้แบน หั่นชิ้นพอทานวางบนข้าวมัน หั่นตับ และเลือดไก่ เป็นชิ้นบาง ๆ วางเรียงที่ข้างจาน ซอยแตงกวาแฉลบขวางลูก โรยผักชี ด้านบนเนื้อไก่ เสริฟ์พร้อมน้ำจิ้ม + น้ำซุป หรือจะเสริฟ์แบบแยกข้าวมัน 1 จาน เนื้อไก่ 1 จานก็ได้

เครื่องปรุงน้ำจิ้ม

เต้าเจี้ยว ½ ถ้วย
ซีอิ้วขาว ¾ ถ้วย
น้ำส้มสายชู ½ ถ้วย
พริกขี้หนู ¼ ถ้วย
น้ำตาลทราย ¾ ถ้วย
กระเทียมปอกเปลือก ½ ถ้วย
ขิงแก่หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ½ ถ้วย
รากผักชี 2-3 ราก

วิธีทำน้ำจิ้ม

นำส่วนผสมทั้งหมด ยกเว้นเต้าเจี้ยว ใส่ลงในโถปั่น เปิดสวิตช์ปั่นส่วนผสมทั้งหมดให้ละเอียดเข้ากัน ปิดเครื่อง ใส่เต้าเจี้ยวลงไป เปิดสวิตช์เครื่องอีกครั้ง ปั่นสักประมาณ 5 วินาที ชิมรสตามชอบ ให้ออกเค็ม เปรี้ยว หวาน ทำเสร็จแล้วเก็บเข้าตู้เย็นทานได้เป็นเดือน สำหรับคนที่ชอบรสจัด เวลาเสริฟ์ก็เติม กระเทียม + ขิง สับละเอียด พริกขี้หนูซอยละเอียด

วิธีทำน้ำซุป

น้ำซุปส่วนที่เหลือ
จากหุงข้าวแล้ว ให้เติมรากผักชี ทุบพอแตก 2-3 ราก , กระเทียมที่แกะเปลือกนอกออก ล้างสะอาด 3-4 กลีบใหญ่, พริกไทยเม็ด 10 เม็ด , พอน้ำเดือด ก็ใส่ฟักหรือแฟงที่ปอกเปลือก ควักไส้ออก + ล้างน้ำ หั่นเป็นชิ้นใหญ่ ๆ ขนาดประมาณ 5 ซม. ลงไปในหม้อ ต้มจนฟักสุก ใส่ตังฉ่ายสักหยิบมือ ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว ตอนเสริฟ์ก็โรยหน้าด้วยผักชีหั่นหยาบ ๆ
ที่ญี่ปุ่นหาซื้อไก่ทั้งตัวได้ยาก เต่าก็เลยใช้ส่วนที่เป็นน่องติดสะโพกแทน

รูปด้านซ้าย...เป็นไก่ที่ล้างแล้วซับน้ำแห้งแล้ว ทาเกลือให้ทั่วชิ้นไก่

รูปด้านขวา....เอาลงหม้อที่ต้มน้ำเดือดรอเอาไว้...ไก่ที่นี่ ส่วนใหญ่จะผ่านการแช่แข็งมาแล้ว น้ำมันจะเหลือน้อย เต่าก็จะเอาหนังไก่เติมลงไปต้มในน้ำซุปด้วยค่ะ ((หนังไก่นั้น...มาจากตอนทำลูกชิ้นไก่ ซึ่งใช้เนื้อล้วน ๆ ก็จะเลาะเอาหนังเก็บเอาไว้ใช้ในตอนนี้นะค่ะ))


ระหว่างที่ต้มไก่ ก็คอยเอาน้ำแข็งเติมลงไป ทุกครั้งที่น้ำเริ่มเดือด การใส่น้ำแข็งลงไปนั้น ทำให้ต้มได้เปื่อยเร็วขึ้น และหนังไก่มีสีขาว ไม่แตกเวลาที่ต้มนะค่ะ


น่องไก่ที่ติดสะโพกนั้น...ใช้เวลาต้มประมาณ 25-30 นาที ก็สุกแล้วค่ะ

รูปด้านซ้าย....ตักชิ้นไก่ขึ้นมา เอาน้ำมันพืชทาให้ทั่วหนังไก่

รูปด้านขวา....ทาน้ำมันเรียบร้อยแล้ว กับตับไก่ที่ต้มสุกแล้วเช่นกัน


พอน้ำซุปเริ่มเย็น ก็มาซาวข้าวหอมมะลิเก่าเตรียมเอาไว้

สำหรับเพื่อน ๆ ที่อยู่ญี่ปุ่นนั้น .... ใช้ข้าวญี่ปุ่นได้ค่ะ โดยนำข้าวมานวดและซาวให้สะอาด แช่น้ำทิ้งไว้สัก 30 นาที หลังจากนั้นก็นำมาใส่กระชอนให้สะเด็ดน้ำ เวลาหุงก็ใช้ส่วนน้ำซุปตามปกติ (เพราะข้าวญี่ปุ่นจะแฉะง่าย) ตั้งโปรแกรมหม้อหุงข้าวที่ 焼込み หรือ おこわ แล้วก็กดสวิทช์หุงได้เลย

วันนี้...พอดีมีข้าวหอมมะลิเก่าเหลืออยู่ ก็เลยใช้ข้าวไทย

รูปนี้...เป็นข้าวที่ซาวสะอาดใส่กระชอนให้น้ำสะเด็ดเตรียมเอาไว้ค่ะ


คราวนี้...ก็นำกะทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันพืชลงไป ((ที่นี่ไม่มีมันไก่เหมือนกันค่ะ)) พอน้ำมันร้อนก็ใส่กระเทียมที่ทุบพอแตกลงไปผัดพอหอม รูปด้านซ้ายค่ะ

หลังจากนั้น...ก็ใส่ข้าวสารที่เตรียมไว้ลงไปผัดให้น้ำมันเข้ากับข้าวดี รูปด้านขวา


พอผัดข้าวได้ที่แล้ว ก็เทลงใส่หม้อหุงข้าว เติมน้ำซุปที่เย็นแล้ว ตามอัตราส่วน กดสวิทช์หุงข้าวได้ตามปกติเลยค่ะ


ระหว่างที่รอข้าวสุกนั้น....ก็มาทำน้ำจิ้มเตรียมเอาไว้เลยค่ะ

รูปด้านซ้าย...เป็นเครื่องปรุงที่เตรียมเอาไว้

รูปด้านขวา.....เอาใส่โถ เติมน้ำส้มสายชู , ซีอิ้วขาว , น้ำตาลทราย แล้วปั่นจนเข้ากันดีแล้วค่ะ เต่าใช้เครื่องปั่นแบบนี้สะดวกที่สุด ไม่ต้องเก็บล้างเยอะ....ความขี้เกียจ...อิอิ


พอปั่นละเอียดแล้ว ก็ใส่เต้าเจี้ยวลงไปปั่นต่อ....รูปด้านซ้าย

หลังจากนั้น..ก็ชิมรสตามชอบเลยค่ะ ให้ออกเปรี้ยว เค็ม หวาน นำ น้ำจิ้มที่ปั่นได้ที่แล้ว ตามรูปด้านขวา


ก่อนทำน้ำจิ้ม ก็ต้มซุปเตรียมไว้ พอน้ำจิ้มเสร็จ ข้าวก็สุก เตรียมหม่ำได้เลยค่ะ

เสริฟ์แบบแยกข้าว กับเนื้อไก่

ต้องขอขอบคุณ

คุณ เต่าญี่ปุ่น

สมุนไพรต่างๆจากข้าวมันไก่

ขิง
สรรพคุณ
  • เหง้า : รสหวานเผ็ดร้อน ขับลม แก้ท้องอืด จุกเสียด แน่นเฟ้อ คลื่นไส้อาเจียน แก้หอบไอ ขับเสมหะ แก้บิด เจริญอากาศธาตุ สารสำคัญในน้ำมันหอมระเหย จะออกฤทธิ์กระตุ้นการบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้ ใช้เหง้าแก่ทุบหรือบดเป็นผง ชงน้ำดื่ม แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน แก้จุกเสียด แน่นเฟ้อ เหง้าสด ตำคั้นเอาน้ำผสมกับน้ำมะนาว เติมเกลือเล็กน้อย จิบแก้ไอ ขับเสมหะ [2]
  • ต้น : รสเผ็ดร้อน ขับลมให้ผายเรอ แก้จุกเสียด แก้ท้องร่วง
  • ใบ : รสเผ็ดร้อน บำรุงกำเดา แก้ฟกช้ำ แก้นิ่ว แก้ขัดปัสสาวะ แก้โรคตา ฆ่าพยาธิ
  • ดอก : รสเผ็ดร้อน แก้โรคประสาทซึ่งทำให้ใจขุ่นมัว ช่วยย่อยอาหาร แก้ขัดปัสสาวะ
  • ราก : รสหวานเผ็ดร้อนขม แก้แน่น เจริญอาหาร แก้ลม แก้เสมหะ แก้บิด
  • ผล : รสหวานเผ็ด บำรุงน้ำนม แก้ไข้ แก้คอแห้ง เจ็บคอ แก้ตาฟาง เป็นยาอายุวัฒนะ
  • แก่น : ฝนทำยาแก้คัน
กระเทียม
    สรรพคุณทางยา
    1. รักษาโรคบิด
    2. ป้องกันมะเร็ง
    3. ระงับกลิ่นปาก
    4. ลดระดับไขมัน คอลเลสเตอรอล และน้ำตาลในเลือด
    5. ขับพิษ และ สารอันตรายที่ปนเปื้อนในเม็ดเลือด
    6. มีกลิ่นที่ฉุนจึงสามารถไล่ยุงได้ดี
    7. ขับลม

วันอังคารที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2555

การทำน้ำยาเอนกประสงค์ 3 สูตร

การทำน้ำยาอเนกประสงค์ชีวภาพอัญชัน
ใช้ซักผ้า-ล้างจาน-อาบ-ล้างหน้า
วันก่อนน้ำยาซักผ้าหมดพอดี จึงได้ทำใหม่ สูตรนี้เราทำแบบพอเพียงคือค่าใช้จ่ายน้อย ไม่เกิน 100 บาท ทำได้ประมาณ 8-10 ลิตรสามารถนำไปใช้ล้างจาน ซักผ้า ล้างหน้า หรืออาบน้ำ ได้ ประหยัดได้หลายทาง แต่ขอบอกก่อนว่าสูตรนี้ไม่มีกลิ่นน้ำหอมเนื่องจากเราเน้นเรื่องความพอเพียง
และหลีกเลี่ยงสารเคมีที่ไม่จำเป็น ลองคำนวณการลดค่าใช้จ่ายดูเช่น

1. ไม่ต้องจ่ายค่าน้ำยาล้างจาน
2. ไม่ต้องจ่ายค่าสบู่อาบน้ำ (ใช้แล้วผิวนุ่มกว่าใช้สบู่)
3. ลดการจ่ายค่าน้ำยาซักผ้าเดือนละ 300 บาท เหลือเพียง 100 บาท
ได้น้ำยาประมาณ 12 ลิตร รวมแล้วต่อเดือนเราจะประหยัดเงินได้เกือบ 400 บาทเชียวนะ
ส่วนผสมคือ1. ตัวน้ำยาซักผ้าหรือซักล้างใช้สาร N 70 ราคากิโลกรัมละ 70-80 บาท
2. เกลือเพื่อใช้ปรับความหนืดความข้น ความเหลวของน้ำยาประมาณ 1 ก.ก. (12 บาท)

3. น้ำชีวภาพอัญชันที่เราหมักได้จากการแนะนำคราวที่แล้ว สามารถทำลายเชื้อแบคทีเรีย และให้สีสวย โดยไม่จำเป็นต้องใช้สารกันบูด ประมาณ 1 แก้ว (ขวดน้ำผลไม้ 250 มล.) 4. น้ำเปล่า 8-10 ลิตร
ขั้นตอนการทำ1. เตรียมส่วนผสมทั้ง 4 อย่าง
2. เท N 70 ใส่ลงในถังใช้ไม้พายคนเบาๆไปทางเดียวกัน ให้ขึ้นขาวฟู ถ้าหนืดเกินไป รู้สึกหนักมือให้ค่อยๆโรยเกลือลงไป (หรืออาจผสมน้ำเกลือใช้แทนได้)
3. จากนั้นค่อยๆใส่น้ำชีวภาพอัญชันเพื่อให้มีสีสวยงาม
4. ทีนี้ก็ทำสลับกันเรื่อย ถ้าหนืดเหนียวให้เติมเกลือ แล้วเติมน้ำ ถ้าเหลวไปจากการเติมน้ำมากก็เติมเกลือ จะทำให้หนืดข้นเช่นเดิม ทำเช่นนี้ไปเรื่อยจนส่วนผสมที่เตรียมไว้หมด
สุดท้ายตรวจดูความเหลวตรงความพอใจของเรา ทิ้งไว้ 1 คืนอาจทำให้หนืดขึ้นอีกเล็กน้อย ทิ้งไว้ให้ฟองยุบตัว รุ่งเช้าน้ำยาเอนกประสงค์ที่ได้ จะใสและไม่มีฟอง จากนั้นให้เรากรอกใส่ภาชนะที่ต้องการเก็บไว้ใช้ เราจะได้น้ำยาสีสวย สีม่วง-อมชมพู
จากการใช้มาอย่างต่อเนื่อง น้ำยาอเนกประสงค์อัญชันจะมีการเปลี่ยนสีเนื่องจากเราไม่ใส่ผงสีในขั้นตอนการทำ
ดังนั้นสีจึงซีดง่ายกลายเป็นสีขาว
วิธีการแก้ไข : ผู้เขียนเติมหัวเชื้อชีวภาพอัญชันที่หมักไว้ลงไป 1 หยดหรือมากกว่า แล้วแต่ชอบ เขย่าให้เข้ากัน ก็ได้สีสวยดังเดิม

สรุปเปรียบเทียบ - จากการใช้ได้เห็นความแตกต่างคือ
- หากลืมตากผ้าในทันที ทิ้งไว้หลายชั่วโมง ผ้าก็ไม่เหม็นทั้งนี้เนื่องจากน้ำชีวภาพอัญชัน
มีสรรพคุณดับกลิ่น กำจัดแบคทีเรีย/จุลินทรีย์ตัวร้าย
- เมื่อใช้ล้างจาน มือจะไม่ลอกเป็นขุยเหมือนใช้น้ำยาล้างจานตามท้องตลาด เนื่องจากเราไม่ใช้สารขจัดคราบ หากในบางจุดของภาชนะยังมี
ความมันอยู่ ให้เทน้ำยาชีวภาพอัญชันลงไป แล้วล้างเฉพาะที่ ล้างทำความสะอาดอีกครั้ง จะพบว่าขจัดความมันได้ดี

ที่สำคัญคือ เราเกิดความภาคภูมิใจที่เราสามารถนำธรรมชาติมาใช้ประโยชน์ได้ ไม่ปล่อยให้เป็นขยะ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งการทำความดีเพื่อในหลวงค่ะ

สูตรน้ำยาล้างจาน สูตรแรก
เครื่องมือหรืออุปกรณ์ทำน้ำยาล้างจาน
- กระป๋องพลาสติกมีฝาปิดความจุประมาณ 1 ลิตร 1 ใบ
- ตะกร้ามีรูใบเล็กขนาดใส่ในกระป๋องพลาสติกได้ 1 ใบ
- เครื่องชั่งน้ำหนักแบบมีจานรอง 1 เครื่อง
- ถ้วยตวงน้ำ 1 ใบ
- ช้อนสำหรับคน 1 คัน
- ผ้าขาวบางขนาด 15X15 นิ้ว 1 ผืน
- ช้อนตวง 1 ชุด
วัสดุทำน้ำยาล้างจาน- เนื้อสับปะรดสับ 300 กรัม
- น้ำตาลทรายไม่ฟอกสี 2 ช.ต.
- หัวเชื้อ EM สด 2 CC.
- น้ำสะอาดไม่มีคลอรีน (น้ำประปาพักไว้ 1 คืน ก่อนนำมาใช้) 50 CC.
- ใบชา 1 หยิบมือ
วิธีทำน้ำยาล้างจานล้างกระป๋องและตะกร้าพลาสติกทิ้งไว้ให้แห้ง นำตะกร้าใส่ในกระป๋องพลาสติก
ชั่งเนื้อสับปะรดสับ 300 กรัม โดยวางถุงพลาสติกบนจานรองก่อน แล้วนำไปเทใส่ในตะกร้า
น้ำตาลทรายไม่ฟอกสี น้ำสะอาด หัวเชื้อ EM สด และใบชา ชั่งและตวงตามสัดส่วนนำมาผสมเข้าด้วยกัน คนน้ำตาลจนละลายหมด เทลงในตะกร้าสับปะรด คนให้เข้ากันปิดฝาทิ้งไว้ 15 วัน (ในที่มีแสงน้อย ที่อุณหภูมิห้อง)
นำน้ำสกัดชีวภาพที่ได้มากรองด้วยผ้าขาวบางกรอกใส่ขวดไว้ใช่ ส่วนกากนำไปผสมดินใช้ปลูกต้นไม้
น้ำยาล้างจานสูตรนี้ระยะแรกๆ สีจะขุ่นต่อมาจะตกตะกอน กลิ่นจะฉุนคล้ายไวน์มากขึ้นเรื่อยๆ และสีจะใสน่าใช้ยิ่งขึ้นด้วย
วิธีใช้น้ำยาล้างจานใช้ล้างจานโดยไม่ต้องผสมน้ำ ใช้เหมือนน้ำยาล้างจานทั่วไป ถ้าล้างจานจำนวนมากควรแช่จาน ในน้ำยาล้างจานผสมน้ำสัดส่วนน้ำยาล้างจาน 1 ส่วน น้ำ 5 ส่วนไว้ก่อน ประมาณ 20 นาทีก่อนล้างเพื่อให้สะอาดทั่วถึง แล้วล้างน้ำสะอาดจนกว่าแน่ใจว่าสะอาค ควรตากจานให้แห้งก่อนนำไปใช้ เพื่อป้องกันการตกค้างของจุลินทรีย์ในหยดน้ำที่เกาะอยู่บนจาน
เปลือกที่ปอกออกนำไปหมัก เป็นน้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์ ทำปุ๋ยน้ำบำบัดกลิ่นและน้ำเสีย เพราะไม่มั่นใจว่าจะมีสารเคมี หรือปุ๋ยตกค้างอยู่หรือไม่จึงไม่ควรนำมาล้างจาน

น้ำยาล้างจานสูตรนี้ สามารถใช้เป็นน้ำยาล้างมือได้อย่างปลอดภัยทำให้มือนุ่ม ส่วนกากที่เหลือนำไปหมักใหม่ได้อีก โดยใช้สัดส่วนเหมือนเดิม หรือจะนำไปผสมดินปลูกต้นไม้ก็ได้
 



สูตรน้ำยาล้างจาน สูตรสอง

วัสดุทำน้ำยาล้างจาน

1.N70หรือหัวเชื้อ   1 กิโลกรัม
2.F24หรือสารขจัดไขมัน  ครึ่งกิโลกรัม ถ้าไม่มีไม่ต้องก็ได้ครับ
3.เกลือ ประมาณ ครึ่งกิโลกรัม ถึง1กิโลกรัม หรือ บางที่เรียกว่าผงข้น
4.น้ำผลไม้รสเปรี้ยว (ที่โรงเรียนทำใช้มะกรูดต้มกับน้ำ)ประมาณ 4 ลิตร
5.น้ำสะอาด ประมาณ7 ลิตร อันนี้แล้วแต่ความข้นครับหากยังข้นก็เติมได้อีกแต่ถ้ามากไปก็ใช้ไม่ได้บางที่ใช้น้ำขี้เถ้าผสมด้วย แต่ไม่มีก้ไม่ต้องครับ

วิธีทำน้ำยาล้างจานเทN70กับF24ลงในภาชนะกวนไปในทิศทางเดียวกันให้เข้ากันจนเป็นครีมขาวๆจากนั้นเติมน้ำผลไม้ลงไปกวนไปเรื่อยๆหากไม่ข้นก็ค่อยๆเติมเกลือทีละน้อยสังเกตุดูหากข้นมากก็เติมน้ำลงไปสลับกันจนน้ำหมดทิ้งใว้ 1 คืนจนฟองยุบแล้วตักใส่ภาชนะใว้ใช้ ต้นทุนประมาณ 140 บาท ครับ ส่วนปริมาณที่ได้ก็ขึ้นอยู่กับว่าใช้น้ำไปเท่าใด

อย่าคนแรงเพราะจะทำให้มีฟองเกิดมาก

N70คือสารลดแรงตึงผิวประจุลบ มีหน้าที่เป็นสารทำความสะอาดต่างๆมีชื่อเต็มๆว่าTexapon N70 มีชื่อทางเคมีว่า Sodium Laurylether Sulfate N70(โชเดียมลอริวอีเทอร์ซัลเฟตN70)มีชื่อย่อๆว่าSLES

ส่วนF24คือสารขจัดไขมันหรือLAS(linearalkylbenZene Sulfonate)

จะใช้น้ำมะกรูดหรือมะนาวหมักก็ได้ครับใส่ 4 ลิตร

*วิธีทำน้ำมะกรูดหรือมะนาวหมัก

หั่นมะกรูดหรือมะนาว 4 กิโลกรัม เป็นสองซีก ใส่น้ำตาล 1 กิโลครึ่ง น้ำ10 ลิตร หมัก 30วัน กรองเอาแต่น้ำมาใช้

สูตรน้ำยาล้างจาน สูตรสาม

วัสดุส่วนผสมทำน้ำยาล้างจาน

1 WATER 300 กรัม
2 LA 40 19.84 กรัม
3 หัวแชมพู 67.46 กรัม
4 COMPERLAN KD 3.97 กรัม
5 SCPG 520      0.79 กรัม
6 PERFUME LEMON 0.40 กรัม
7 เกลือ  7.54 กรัม

วิธีทำน้ำยาล้างจาน
1. ละลาย LA 40 กับน้ำ คนจนละลายให้เข้ากัน   (ใช้ความร้อนได้เล็กน้อยเพื่อให้ละลายง่ายขึ้น)
2. เติมหัวแชมพู + COMPERLAN KD ลงไปคนให้เข้ากัน จนแน่ใจว่าเข้ากันดี
3. เติม SCPG 520  ลงไปคนให้เข้ากัน
4. เติมกลิ่นมะนาว ลงไปคนให้เข้ากัน
5. เติมเกลือที่ละลายด้วยน้ำร้อน คนให้เข้ากัน (จะหนืดขึ้น)    ก็จะได้น้ำยาล้างจานตามต้องการ

สูตรน้ำยาล้างจาน สูตรสี่

วัสดุส่วนผสมทำน้ำยาล้างจาน
1  น้ำสะอาด  10 ลิตร    
2  โซฮาแลบ30  -  ลดคราบ 1.5  กก.
3  N-70 - ทำความสะอาด  1  กก.
4  เอ็มอี - ทำให้หนืด 160 กรัม
5  แอมโมเนียม คลอไรด์  - ผงข้น 100 กรัม
6 ผงกันบูด  15 กรัม
7  สี -เหลืองหรือเขียว ตามสมควร
8 กลิ่นมะนาว ตามสมควร

วิธีทำน้ำยาล้างจาน           ผสมโซฮาแลบ30 และ แอมโมเนียมคลอไรด์ เข้าด้วยกัน  คนจนส่วนผสมเป็นสีขาว แล้วจึงเติมเอ็มอี
และ เอ็น70ลงไป  ค่อยๆเติมน้ำ กวนช้าๆไปจนเข้ากันดี แล้วเติมกลิ่นและสีดูความเข้มตามใจชอบ  ทิ้งไว้จนหมด
ฟอง(ประมาณ1-2 ชั่วโมง) จึงนำไปบรรจุขวดตามต้องการ







น้ำหมักชีวภาพสูตรมะกรูด

ส่วนประกอบ

                1. มะกรูดแก่                         3              กิโกกรัม
                2. น้ำตาลทรายแดง              1              กิโลกรัม
                3. น้ำเปล่า                             10           ลิตร
วิธีทำ
                1. ใส่ตาลทรายแดง และน้ำลงไปในถังหมักคนให้ละลาย
                2. นำผลมะกรูดล้างให้สะอาด หั่นมะกรูดตามขวางหรือเป็นแว่น
                3. ใส่มะกรูดที่หั่นแล้วลงในถังหมัก ปิดฝาให้สนิท หมักไว้ 3 เดือน จึงนำมาใช้ได้
ข้อควรระวัง    ควรเก็บไว้ในที่ร่ม อย่าให้ถูกแสงแดดหรือถูกฝน
  
น้ำยาล้างจานจากน้ำหมักมะกรูด
ส่วนประกอบ
                1. N70                                    1              ส่วน
                2. เกลือ                                  1              กิโลกรัมต่อน้ำ 2.5 ลิตร
                   (นำมาทำน้ำเกลือ โดยต้มน้ำเกลือ 1 ก.ก.ต่อน้ำ 2.5 ลิตร พอเกลือละลายกรองเอาแต่น้ำสะอาด)
                3. น้ำหมักมะกรูด 1              ลิต ร+ น้ำ 6 ลิตร
วิธีทำ
                1. นำ N70 มาใส่ภาชนะ ใช้ไม้พายคนให้ละลายโดยคนไปทางเดียวกัน
                2. คอยใส่น้ำเกลือทีละน้อย ๆ พร้อมกับคนไปเรื่อย ๆ จนหมด
                3. เติมน้ำหมักมะกรูดเช่นเดียวกับเติมน้ำเกลือ พร้อมกับคนไปเรื่อยๆ จนหมด แล้วตั้งทิ้งไว้ 1 คืน เพื่อให้ฟองหมดจึงบรรจุใส่ขวด
ประโยชน์   ใช้ล้างจาน , ใช้ซักผ้า , ใช้ชะล้างอื่น ๆ

7. ส่วนสรุป : การทำน้ำหมักชีวภาพจากผลมะกรูดก็เป็นอีกหนึ่งภูมิปัญญาไทยที่มีการพัฒนาวิธีการใช้ประโยชน์จากมะกรูดอย่างต่อเนื่อง การทำยาล้างจานจากน้ำหมักมะกรูดก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ไม่ต้องลงทุนมาก นอกเหนือจากนำมาใช้ในครัวเรือนแล้วยังสามารถนำมาจำหน่ายในชุมชนทำให้มีรายได้เพิ่มและยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมอีก  สำหรับเกษตรกรอีกหลาย ๆ คนจะลองหันมาทำน้ำยาล้างจานจากน้ำหมักมะกรูดดูบ้างก็ไม่เป็นการผิดกติกาอย่างใด  ซึ่งถ้าหากสนใจผลิตภัณฑ์จากน้ำหมักมะกรูดหรือต้องการจะได้ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อได้ที่ นางถนอมสิน  จูงกลาง ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนศูนย์สาธิตการตลาดบ้านจันดุม หมู่ที่  6  ตำบลใหม่  อำเภอโนนสูง   จังหวัดนครราชสีมา โทรศัพท์ 08-17899022